น้ำมันมะกอก สารพัดประโยชน์ดีต่อสุขภาพและความงาม

Last updated: 2 ธ.ค. 2565  |  15618 จำนวนผู้เข้าชม  | 

น้ำมันมะกอก สารพัดประโยชน์ดีต่อสุขภาพและความงาม

น้ำมันมะกอก เป็นน้ำมันพืชธรรมชาติที่หลายคนให้ความนิยมนำมาใช้ประกอบอาหารอย่างแพร่หลาย ทำให้มักติดภาพจำของน้ำมันมะกอกว่าเป็นน้ำมันที่ใช้สำหรับทำอาหาร แต่จริง ๆ แล้วน้ำมันมะกอกยังถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์เสริมความงามต่าง ๆ อีกด้วย หรือจะใช้น้ำมันมะกอกเพียว ๆ บำรุงผิวก็ได้เช่นกัน ถือได้ว่าน้ำมันมะกอกเป็นสุดยอดเคล็ดลับแห่งความสวยเลยก็ว่าได้! ในบทความนี้ Derma Innovation จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ “น้ำมันมะกอก” น้ำมันสารพัดประโยชน์ที่คุณคาดไม่ถึง!

 

น้ำมันมะกอกคืออะไร ?

 

น้ำมันมะกอก (Olive Oil) คือน้ำมันธรรมชาติหรือน้ำมันพืชที่สกัดจากผลของต้นมะกอก หลายคนนิยมนำน้ำมันมะกอกมาใช้ในการประกอบอาหาร รวมถึงนำมาใช้ในการผลิตสินค้าหรือผลิตภัณฑ์จากน้ำมันมะกอกต่าง ๆ เช่น ผลิตน้ำมันนวด สบู่จากน้ำมันมะกอก แชมพูสระผมจากน้ำมันมะกอก เป็นต้น

 

ประเภทของน้ำมันมะกอก มีอะไรบ้าง ?

 

น้ำมันมะกอกจะแบ่งประเภทตามคุณภาพ ซึ่งจะวัดจากค่าความเป็นกรดไขมันอิสระในน้ำมัน (Free fatty acid) และนิยมเรียกชื่อตามความบริสุทธิ์ โดยประเภทของน้ำมันมะกอกสามารถแบ่งได้ 5 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้

 

  น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิน (Extra-Virgin Olive Oil)

น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตราเวอร์จิน (Extra-Virgin Olive Oil) เป็นน้ำมันมะกอกชนิดบริสุทธิ์พิเศษ มีคุณภาพดีที่สุด ราคาสูงที่สุด มีค่าความเป็นกรดไขมันอิสระต่ำกว่า 1% น้ำมันมะกอกประเภทนี้จะมีสีเขียวเข้ม เพราะได้มาจากการบีบเอาน้ำมันจากมะกอกสด ๆ นิยมนำมาบำรุงผิวพรรณและเส้นผมเพื่อบำรุงให้ดูสุขภาพดี ชุ่มชื้น 

วิธีสังเกตน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์คือ ให้ตรวจสอบที่ฉลากสินค้าโดยน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์จะมีคำว่า Extra-Virgin Olive Oil (EVOO) หรือน้ำมันมะกอกสกัดเย็น แต่ถ้ามีเฉพาะคำว่า Olive Oil อาจหมายถึงน้ำมันมะกอกที่ได้มาจากการกลั่นโดยใช้สารเคมี หรือส่วนผสมจากน้ำมันพืชอื่น ๆ ก็เป็นได้ ดังนั้นหากต้องการใช้น้ำมันมะกอกบำรุงผิวควรเลือกเป็นน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์จะดีที่สุด


  น้ำมันมะกอกเวอร์จิน (Virgin Olive Oil)

น้ำมันมะกอกเวอร์จิน (Virgin Olive Oil) คือน้ำมันมะกอกชนิดบริสุทธิ์ดีมาก มีค่าความเป็นกรดไขมันอิสระต่ำ ไม่เกิน 2% ได้มาจากการบีบเอาน้ำมันออกมามะกอกสด ๆ คล้ายกันกับน้ำมันมะกอก Extra-Virgin Olive Oil แต่น้ำมันมะกอก Virgin จะใช้ผลมะกอกที่แก่กว่าและมีคุณภาพรองลงมา ฉะนั้นราคาก็จะถูกลงเล็กน้อย 


  น้ำมันมะกอกผสม (Pure Olive Oil)

น้ำมันมะกอกผสม (Pure Olive Oil) เป็นน้ำมันมะกอกที่ผสมผสานกันระหว่าง น้ำมันมะกอก Extra-Virgin Olive Oil กับน้ำมันมะกอกที่ผ่านกรรมวิธีเพิ่มคุณค่าทางสารอาหารเข้าไป มีค่าความเป็นกรดไขมันอิสระอยู่ที่ 3-4% ทำให้ได้น้ำมันมะกอกที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูง 


  น้ำมันมะกอกแบบผ่านกรรมวิธี (Refined Olive Oil)

น้ำมันมะกอกแบบผ่านกรรมวิธี (Refined Olive Oil) คือน้ำมันมะกอกที่ผ่านกรรมวิธีเพิ่มคุณค่าทางสารอาหาร มีการสกัดเอากลิ่น สี และรสเดิมออกไป โดยผ่านกรรมวิธีทางเคมีและผ่านความร้อน ทำให้น้ำมันมะกอกชนิดนี้ค่อนข้างใสและมีราคาไม่สูง 


  น้ำมันกากมะกอก (Olive Pomace Oil)

น้ำมันกากมะกอก (Olive Pomace Oil) เป็นน้ำมันที่สกัดเอามาจากกากมะกอกอีกที จากนั้นจึงนำไปผ่านกรรมวิธีทางเคมีและผ่านความร้อน ทำให้น้ำมันมะกอกชนิดนี้มีคุณภาพต่ำที่สุด สามารถนำมาประกอบอาหารได้ 


ประโยชน์ของน้ำมันมะกอกมีอะไรบ้าง ?



น้ำมันมะกอกดีอย่างไร? น้ำมันมะกอกเป็นน้ำมันที่ให้ประโยชน์มากกว่าโทษ หลายคนจึงนิยมนำมาใช้ประกอบอาหาร รวมถึงนำมาใช้บำรุงผิวพรรณและเส้นผมอีกด้วย เรียกได้ว่าน้ำมันมะกอกมีประโยชน์แบบ 2 in 1 กันเลยทีเดียว สำหรับประโยชน์ของน้ำมันมะกอกในด้านความงามมีดังต่อไปนี้


  ช่วยบำรุงเส้นผมให้นุ่มสลวย

น้ำมันมะกอกอุดมไปด้วยวิตามิน B และวิตามิน E ที่จะช่วยบำรุงผมคุณได้อย่างล้ำลึก เพิ่มความนุ่มสลวยและทำให้ผมแข็งแรง ไม่เปราะหรือขาดง่าย โดยน้ำมันมะกอกจะซึมเข้าไปในแกนผมและช่วยรักษาความชุ่มชื้น ความเงางาม ทำให้ผมดูเรียบขึ้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีผมแห้งเสีย ชี้ฟู หรือผู้ที่ผมเสียจากการทำสีผม นอกจากนี้น้ำมันมะกอกยังช่วยขจัดรังแค และยังช่วยให้ผมดกดำอีกด้วย


  ช่วยดูแลปัญหาสิว 

ประโยชน์น้ำมันมะกอกยังสามารถใช้รักษาสิวได้อีกด้วย เนื่องจากในน้ำมันมะกอกมีสารฆ่าเชื้อแบคทีเรียตามธรรมชาติ จึงสามารถป้องกันแบคทีเรียตัวก่อให้เกิดสิวบนใบหน้าได้ นอกจากนี้น้ำมันมะกอกยังป้องกันการอักเสบ และอาการบวมแดงของสิวได้ด้วย


  ช่วยบำรุงและเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว

หากคุณมีผิวแห้งกร้าน น้ำมันมะกอกสามารถช่วยบำรุงผิวคุณให้กลับมาชุ่มชื้น ดูสุขภาพดีได้ น้ำมันมะกอกอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินอี วิตามินดี และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะช่วยเติมเต็มน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวได้อย่างล้ำลึก ซึมซาบเร็ว และกักเก็บความชุ่มชื้น เมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ผิวพรรณของคุณก็จะค่อย ๆ กลับมานุ่มชุ่มชื้นอย่างแน่นอน


ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกาย Nourishing Body Gel เนื้อเจลซึมไว สบายผิว เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งกร้าน มาพร้อมกลิ่นหอมอ่อน ๆ จาก Tea tree oil ช่วยให้ผ่อนคลาย ด้วยคุณค่าจากน้ำมันมะกอก (Olive Oil) จะช่วยฟื้นบำรุงผิวให้กลับมาเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น ผิวเรียบเนียน รวมทั้งยังช่วยชะลอริ้วรอยแห่งวัยได้อีกด้วย ผสานคุณประโยชน์ระหว่างน้ำมัน 7 ชนิด และวิตามิน 3 ชนิด จะช่วยคืนผิวให้กลับมาดูสุขภาพดี เมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง


  ช่วยบำรุงเล็บให้แข็งแรง

เราสามารถใช้น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์มาเป็นส่วนผสมเพื่อใช้บำรุงเล็บและมือของเราได้ด้วย โดยนำไปผสมกับผลิตภัณฑ์ธรรมชาติอื่น ๆ เช่น น้ำมันมะนาว น้ำผึ้งสด น้ำตาล เป็นต้น เพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรง ความยืดหยุ่นให้กับเล็บ น้ำมันมะกอกจะช่วยบำรุงให้เล็บฉีกขาดน้อยลง ไม่เป็นขุยหรือเล็บลอก แถมยังช่วยคืนความนุ่มให้กับมือของเราด้วย


  ใช้ล้างเครื่องสำอางได้หมดจด

น้ำมันมะกอกเป็นน้ำมันที่สามารถใช้เช็ดล้างเครื่องสำอางได้อย่างสะอาดหมดจด รวมถึงยังอ่อนโยนต่อผิวหน้าอีกด้วย โดยเฉพาะผิวบริเวณรอบดวงตาที่มีความบอบบาง ต้องอาศัยความระมัดระวังในการล้างออก การใช้น้ำมันมะกอกผสมกับน้ำอุ่นจะช่วยล้างพวกมาสคาร่า หรืออายไลน์เนอร์ที่เกาะติดแน่นได้ดี อีกทั้งยังลดการทำร้ายผิวบริเวณรอบดวงตาอีกด้วย


ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าจากน้ำมันมะกอก สูตรอ่อนโยน Pearl Golden Soap ด้วยคุณค่าจากสารสกัดไข่มุก วิตามิน B3 และวิตามิน E จะช่วยบำรุงผิวให้เปล่งปลั่ง ผสานคุณค่าจากน้ำมันมะกอกและน้ำผึ้ง จะชวยเติมเต็มความชุ่มชื้น ผิวดูกระชับและเรียบเนียน เมื่อใช้เป็นประจำทุกเช้า-เย็น


  ช่วยป้องกันการเสียดสีจากการโกนขน

ก่อนที่คุณจะเริ่มโกนขนบริเวณแขน ขา ให้ชโลมน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์จนทั่วก่อน จากนั้นจึงค่อย ๆ โกนขนอย่างเบามือ โดยน้ำมันมะกอกจะช่วยลดการเสียดสีของผิว ไม่ให้ผิวเกิดอาการระคายเคืองในระหว่างที่โกนขน นอกจากนี้น้ำมันมะกอกจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นหลังโกนขน ไม่แห้ง และคันน้อยลง


  ช่วยบำรุงริมฝีปากให้นุ่ม ชุ่มชื้น

น้ำมันมะกอกสามารถช่วยบำรุงให้ปากนุ่มชุ่มชื้นด้วยนะ โดยนำน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์มาผสมกับน้ำตาลทรายเล็กน้อย พร้อมกับเติมน้ำมะนาวสักนิดและเติมน้ำอุ่นลงไป เพื่อนำไปพอกกับริมฝีปาก กรดจากน้ำมันมะกอกและน้ำมะนาวจะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วพร้อมเผยผิวปากที่เนียนนุ่มและชุ่มชื้น


  ช่วยลดปัญหาริ้วรอย และรอยแผลเป็น

นำน้ำมันมะกอกมาแต้มบริเวณริ้วรอยจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว รวมถึงนำมานวดบริเวณรอยแผลเป็นเล็กน้อย ประมาณ 5 นาที จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วค่อยล้างออก วิตามินและแร่ธาตุในน้ำมันมะกอกจะช่วยให้เซลล์ผิวทำงานได้ดีขึ้น สร้างผิวใหม่ขึ้นมา ทำให้รอยแผลเป็นค่อย ๆ จางลง


ครีมบำรุงผิวหน้าสูตรเข้มข้น Age-Defying Retinol-like Cream ด้วยสารสกัดจากน้ำมันมะกอกจะช่วยลดเลือนริ้วรอย  เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว พร้อมคุณค่าจากสารสกัด Vitanol EL จากธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ Retinol และ OSILIFT จะช่วยให้ผิวเรียบเนียน ไม่เพียงเท่านี้ยังผสานพลัง Hyaluronic Acid ถึง 8 ชนิด บำรุงผิวแห้งกร้านได้อย่างล้ำลึก


  ช่วยในการบำรุงส้นเท้าแตก 

น้ำมันมะกอกโดดเด่นในเรื่องเพิ่มการชุ่มชื้นเป็นอย่างมาก จึงเหมาะกับการนำมาบำรุงส่วนที่แห้งแตกหรือแห้งกร้าน อย่างส้นเท้าแตกและตาตุ่มด้าน โดยนำน้ำมันมะกอกมานวดบริเวณที่แห้งกร้านและพอกทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที โดยไม่ต้องล้างออก ทำเป็นประจำทุกวัน ส่วนที่แห้งกร้านจะค่อย ๆ เนียนและชุ่มชื้นขึ้น 


  นำมาเป็นส่วนผสมในการมาส์กหน้า

การนำน้ำ มันมะกอกมาเป็นส่วนผสมในการมาส์กหน้า จะมีส่วนช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าได้ เช่น นำมาผสมกับทานาคาหรือขมิ้นแล้วพอกทิ้งไว้ประมาณ 10-20 นาที นอกจากจะได้เรื่องความเนียนนุ่มชุ่มชื้นแล้ว ผิวยังใสอีกด้วย หากทำเป็นประจำก็จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องความหมองคล้ำได้ นอกจากนี้น้ำมันมะกอกยังสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวอีกด้วย เพราะน้ำมันมะกอกไม่ทำให้เกิดการอุดตัน


วิธีการเลือกซื้อน้ำมันมะกอกเพื่อนำมาใช้เสริมความงาม



ก่อนการเลือกซื้อน้ำมันมะกอกมาใช้ เราควรเลือกน้ำมันมะกอกที่มีความบริสุทธิ์สูงที่สุด เพราะน้ำมันมะกอกที่ไม่ผ่านการกลั่น เช่น น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์มากจะมีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินและแร่ธาตุที่ดีต่อผิวของคุณ นอกจากนี้ควรเลือกน้ำมันมะกอกที่มียี่ห้อรับรองโดย International Olive Council เพื่อให้มั่นใจว่ากำลังซื้อน้ำมันมะกอกของแท้และมีคุณภาพที่ดี


น้ำมันมะกอกกับเคล็ดลับความสวยความงาม


น้ำมันมะกอกอุดมไปด้วยวิตามินและสารบำรุงต่าง ๆ ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวและมีคุณประโยชน์ในด้านเสริมความงามเป็นอย่างมาก จะเห็นได้ว่าน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ขวดเดียวก็สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้มากมายตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า สมกับเป็นเคล็ดลับแห่งความสวยที่แท้จริง!


          หากสนใจอยากสร้างแบรนด์เครื่องสำอางกับบริษัท เดอร์มา อินโนเวชั่น รวมถึงอยากปรึกษาการสร้างแบรนด์ด้วยตัวเองกับเรา สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางต่อไปนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้