สำหรับวัยแรกสาวช่วงอายุ 16-20 ปีที่เพิ่งผ่านวัยเด็กมาไม่นานนั้น ปัญหาผิวคงจะมีไม่มาก เพราะโครงสร้างผิวยังคงสมบูรณ์และแข็งแรงอยู่ ปัญหาหลักๆที่พบในวัยนี้คงหนีไม่พ้นปัญหาเรื่องสิว เพราะเป็นช่วงฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงจากวัยเด็กไปสู่วัยสาว ถึงแม้จะเป็นปัญหาสิวๆ แต่ถ้าปล่อยไว้ไม่รักษาก็อาจจะลุกลามเป็นหลุมสิวทำหน้าพังได้เหมือนกันนะคะ เพราะแบบนี้แทนที่เราจะปล่อยให้เป็นสิวก่อน แล้วค่อยมารักษา เราเปลี่ยนมาป้องกันไว้น่าจะดีกว่า เพราะหน้าเนียนๆใสๆ ใครเห็นใครก็หลงรักจริงไหมคะเอาล่ะเรามาเริ่มดูแลหน้าป้องกันสิวกันเลยดีกว่า
อาหารป้องกันสิว
เชื้อแบคทีเรีย และการอุดตันของไขมันคือสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว สังกะสีคือสารอาหารที่ต้านเชื้อแบคทีเรียและป้องกันการอุดตันของไขมันได้ อาหารที่อุดมไปด้วยสังกะสีเช่น หอยนางรม ถั่ว และธัญพืชต่างๆนั่นเองค่ะ
ส่วนวิตามินเอ คือสารอาหารที่ช่วยลดการอักเสบของสิว การรับประทานผักใบเขียว และผักผลไม้สีส้ม จะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินเอ แก้ปัญหาการอักเสบของสิวได้ดีทีเดียว
วิธีดูแลผิวหน้าให้ไม่เป็นสิว
1. ความเครียดคือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิว สำหรับสาววัยแรกรุ่นแค่การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในร่างกายก็เสี่ยงต่อสิวมากพอแล้วนะคะ อย่าให้ความเครียดมาทำให้ฮอร์โมนแปรปรวนมากขึ้นจนน้องสิวถามหาได้อีกนะ
2. หลีกเลี่ยงเครื่องสำอางที่จะทำให้ผิวอุดตัน สำหรับสาววัยรุ่นอย่างเราหน้าสดตามธรรมชาติก็สวยกระชากใจจนวัยไหนๆก็ต้องอิจฉาแล้วค่ะ แต่ถ้าจำเป็นต้องแต่งแนะนำว่าให้แต่งหน้าบางๆ แล้วก็ล้างออกให้หมดจดด้วยนะคะถึงจะปลอดภัยห่างไกลจากน้องสิวตัวร้าย
3. ดื่มน้ำเยอะๆ การดื่มน้ำเปล่าสะอาดๆ อย่างน้อยวันละ 8 แก้วนอกจากจะช่วยให้ไม่เป็นสิวแล้วยังช่วยให้ผิวพรรณเราเปล่งปลั่ง สวยสมวัยอีกด้วยนะคะ
ผลิตภัณฑ์สำหรับปัญหาสิว
ครีมหน้าใส กับผิววัยรุ่น
สำหรับวัยสาวเต็มตัวในช่วงอายุ 20-28 ปี คงไม่มีปัญหาไหนบนใบหน้าให้น่าห่วงไปกว่า ทำยังไงให้หน้าใสไร้สิว ไร้ริ้วรอยใดๆ มากวนใจ ตัวช่วยที่หาง่ายมากที่สุดคงหนีไม่พ้นบรรดาครีมหน้าใสทั้งหลาย ที่มีทั้งราคาถูก และแพงตามแต่มูลค่าของแบรนด์ และคุณภาพ ซึ่งสาวๆก็คงต้องเลือกใช้กันหน่อยนะคะ เพราะถ้าเลือกครีมที่มีแหล่งผลิตไม่ชัดเจน ไม่ผ่านมาตรฐาน อย. หรือใส่สารอันตรายก็เสี่ยงหน้าพังได้เหมือนกันไม่คุ้มกันเลยค่ะ ส่วนวิธีการอื่นๆที่จะช่วยให้หน้าใสแบบไม่ต้องพึ่งครีม หรืออย่างน้อยก็พึ่งพาให้น้อยที่สุดก็มีเหมือนกันค่ะ จะมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ
อยากหน้าใสต้องกินอะไรนะ?
Lycopene (ไลโคปีน) สารที่พบมากในมะเขือเทศ การทานมะเขือเทศ 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์จะช่วยลดสาเหตุที่ทำให้เกิดสิว และจุดด่างดำได้
ทานปลาก็ช่วยให้หน้าใสได้ อย่างที่เรารู้กันดีว่าในปลานั้นมี โอเมก้า 3 ซึ่งสารตัวนี้จะช่วยการทำงานของสมองทำให้ไม่เครียด ซึ่งเมื่อเราไม่เครียดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดสิว และริ้วรอยต่างๆก็ลดลงด้วยค่ะ
วิธีดูแลหน้าให้ขาวใส เป็นธรรมชาติ
อยากหน้าใส สิ่งแรกต้องเริ่มจากตัวเราก่อนค่ะ การพักผ่อนไม่เพียงพอเป็นสาเหตุหลักๆ ของใบหน้าหมองคล้ำ เพราะฉะนั้นควรนอนให้เพียงพอคือวันละ 7-8 ชั่วโมง และจะยิ่งดีขึ้นไปใหญ่คือต้องเข้านอนก่อน 4 ทุ่ม นอกจากจะช่วยให้หน้าใสแล้ว ยังช่วยให้สุขภาพทั่วไปดีขึ้นอีกด้วยค่ะ
ผลิตภัณฑ์เพื่อผิวหน้าเนียนใส
โดยผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้าเนียนใสนั้นแม้จะมีให้เลือกใช้มากมายในท้องตลาดแต่สิ่งที่ควรระวังก็คือผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีสารอันตรายเช่น สเตียรอยด์ หรือ ไฮโดรควิโนน เพราะฉะนั้นควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยโรงงานที่ปลอดภัย ได้มาตรฐาน จะดีที่สุดค่ะสำหรับผลิตภัณฑ์ขายดีที่เราแนะนำเช่น
ครีมรักษาฝ้า กับใบหน้าสาวเลขสาม
ปัญหาที่ชวนหนักใจที่สุดสำหรับสาวๆ ที่เริ่มก้าวเข้าสู่เลขสามคงเป็นเรื่อง ฝ้า กระ จุดด่างดำ ทั้งหลาย และเมื่อมีปัญหาก็ต้องหาวิธีรักษาใช่ไหมคะ วิธีการแรกๆ ที่พวกเราคิดถึงก็คงเป็น ครีมรักษาฝ้า ทั้งหลายที่ปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายสูตร หลากหลายแบรนด์มาก ส่วนวิธีอื่นๆ ที่นิยมกันก็คงเป็นการใช้เลเซอร์ หรือการทำทรีทเม้นท์ ตามคลินิกความงามซึ่งก็อาจจะใช้งบประมาณมากกว่าครีมรักษาฝ้าซักหน่อย แต่ข้อดีคือเห็นผลเร็วมาก
แต่ถ้าไม่อยากเดือดร้อนต้องไปหาวิธีการรักษาหน้าจาก ฝ้า กระ ทั้งหลาย การดูแลตัวเองเพื่อป้องกันเอาไว้ก่อนก็น่าจะเป็นการดีนะคะ
อาหารป้องกันฝ้า กระ
สาเหตุการเกิดฝ้า กระ มาจากการที่ผิวโดนรังสี UV มากเกินไปจึงสร้างเม็ดสีขึ้นมา เพราะฉะนั้นการรับประทานอาหารที่มีสารอาหารจำพวก วิตามิน ซี , แคโรทีน , ไลโคปีน จะช่วยให้ผิวแข็งแรงรับมือกับรังสี UV ได้ อาหารที่มีสารอาหารเหล่านี้ได้แก่ พืชผักสีแดง , สีส้ม , และผักใบเขียวต่างๆ ที่สำคัญการทานน้ำให้เพียงพอต่อวันก็ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นลดปัญหาฝ้า กระได้เช่นกันค่ะ
วิธีการดูแลใบหน้าให้ห่างไกล ฝ้า กระ
หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแสงแดดแรงๆ เป็นเวลานานถ้าหากจำเป็นต้องออกแดด แนะนำว่าควรทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไปเพราะอย่างที่เรารู้ๆกันค่ะว่าแสงแดดเมืองไทยร้อนแรงขนาดไหน
ผลิตภัณฑ์สำหรับฝ้า กระ
ผลิตภัณฑ์พร้อมสร้างแบรนด์เพื่อแก้ปัญหา กระ ฝ้า โดยเฉพาะของ เดอร์มา อินโนเวชั่น
Anti-Aging ทางรอดของสาววัยทำงาน
ครีมลดริ้วรอย หรือ Anti-aging ผลิตภัณฑ์ที่ขายดิบขายดีเป็นอันดับต้นๆของบรรดา Skin care ทั้งหลายเพราะค่อนข้างตอบโจทย์สาววัยทำงานในช่วงอายุ 35-45 เป็นอย่างดี เนื่องจากสาวๆ วัยนี้จะเริ่มเผชิญกับปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า นอกจากครีม Anti-aging แล้วสาววัยทำงานในช่วงอายุนี้ยังหันไปพึ่งนวัตกรรมทางการแพทย์อื่นๆอีกตามฐานรายได้ที่เพิ่มขึ้น เช่น การร้อยไหม, ฉีดโบท็อกซ์, หรือฉีดฟิลเลอร์ เพื่อชะลอวัยให้มากที่สุด ถึงแม้จะเห็นผลเร็วแต่วิธีการเหล่านี้ก็มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงเฉลี่ยอยู่ที่ครั้งละ 50,000 – 100,000 บาท/ครั้ง ส่วนสาววัยทำงานคนไหนไม่อยากต้องเหนื่อยกับการมาไล่ลบริ้วรอย ลองมาดูวิธีบำรุงผิวที่จะช่วยให้ริ้วรอยมาช้ากว่าวัยกันค่ะ
อาหารเพื่อผิวตึง เด้งกระชับไร้ริ้วรอย
อย่างที่เรารู้ๆกันว่าโครงสร้างสำคัญของผิวที่มีผลต่อริ้วรอยก็คือคอลลาเจน เพราะฉะนั้นการทานอาหารที่มีคอลลาเจนสูงก็จะสามารถเป็น Anti-aging ตามธรรมชาติได้
อาหารที่อุดมไปด้วยคอลลาเจนมีหลายชนิดเลยค่ะ ขอยกตัวอย่างอาหารที่หาทานง่ายๆ นะคะอย่างเช่น ถั่วเหลือง , ผักใบเขียว , หรือกระเทียมที่อุดมไปด้วยซัลเฟอร์ กรดไลโปอิก (lipoic acid) และกรดอะมิโนทอรีน (Taurine) ที่ช่วยเสริมสร้างเส้นใยคอลลาเจนที่ถูกทำลายได้
วิธีการดูแลผิวให้ห่างไกลจากริ้วรอย
1. อยู่ให้ไกลจากแสงแดดอันแสนร้อนแรงของเมืองไทย เพราะรังสี UV สามารถเข้าไปทำลายผิวชั้นในทำให้โครงสร้างผิวเสื่อมสภาพ นอกจากจะทำให้ผิวคล้ำแล้ว ยังทำให้เกิดริ้วรอยได้อีกด้วยค่ะ
2. ดื่มน้ำเยอะๆ สูตรนี้ต้องบอกว่าเป็นสูตรที่เห็นผลง่าย เร็ว และที่สำคัญราคาถูกมาก การทานน้ำต่อวัน 8-10 แก้วนอกจากจะทำให้ผิวสดใสห่างไกลริ้วรอยเหี่ยวย่นแล้ว ยังส่งผลให้ระบบภายในของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ระบบขับถ่ายดีขึ้นร่างกายไม่สะสมสารพิษ มีแต่ข้อดีขนาดนี้อย่าลืมทานน้ำกันเยอะๆนะคะ
3. พักผ่อนให้เพียงพอ ร่างกายเรามันมหัศจรรย์มากนะคะเพราะเวลาที่เรานอนร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมาเพื่อฟื้นฟูร่างกาย เพราะฉะนั้นการเข้านอนให้เป็นเวลา และเพียงพอจึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้สุขภาพผิวได้ฟื้นตัวกลับมาสดใสอีกครั้งในวันถัดไปค่ะ
4. อยู่ให้ไกลเหล้า บุหรี่ เชื่อว่าทุกคนที่อ่านบทความนี้อยู่ก็น่าจะร็ดีอยู่แล้วแหละเนอะว่าเหล้า บุหรี่นั้นมันไม่ดี ไม่ใช่แค่กับแค่สุขภาพผิว แต่รวมถึงสุขภาพโดยรวมด้วย แต่ก็ขอย้ำอีกครั้งค่ะว่าถ้าอยากให้ผิวดีไม่แก่ก่อนวัยไปมาก ควรหลีกเลี่ยงนะคะ
5. ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ การออกกำลังกายจะช่วยให้กล้ามเนื้อกระชับขึ้น ผิวดูตึงขึ้นเฟิร์มขึ้นไม่หย่อนยาน ร่างกายได้ขับของเสียออกมาทางเหงื่อช่วยให้ผิวใสโดยแทบจะไม่ต้องพึ่งพาครีมเลยค่ะ
ผลิตภัณฑ์ Anti-aging
Anti-aging ของสาววัย 45+
เมื่อย่างเข้าสู่เลข 4 ริ้วรอยแห่งวัยจะยิ่งเห็นเด่นชัดมากขึ้นแม้จะยังสามารถพึ่งพา Skin care ประเภท Anti-aging ได้อยู่แต่ก็อาจจะเห็นผลช้าความสวยมาไม่ทันใจ
สาววัยนี้ที่ฐานรายได้ค่อนข้างสูงจึงมักจะเลือกใช้การศัลยกรรมเข้ามาช่วยเช่น การผ่าตัดดึงหน้า เป็นต้น ถึงแม้จะเป็นวิธีการที่เห็นผลเร็วและค่อนข้างปลอดภัยในสมัยนี้ (ในกรณีที่ทำในโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน) แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงถึงหลัก 100,000 – 300,000 บาท เลยทีเดียว แต่ถ้าเราดูแลตัวเองดีมาตั้งแต่วัยสาว หรือที่เขาเรียกว่ากินบุญเก่านั่นแหละค่ะ เราก็ไม่ต้องเหนือยกาย เหนือยเงินไปกับค่าศัลย์ ค่าครีมมากนัก ส่วนวิธีการดูแลตัวเองเพื่อให้ห่างไกลจากริ้วรอยความแก่จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลยค่ะ
อาหาร Anti-aging
1. สารพัดผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่ ผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่ล้วนอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ หรือจะขอเรียกว่าสารต้านแก่แล้วกันนะคะ ที่ช่วยปกป้องเราจากสารพิษต่างๆที่เข้าสู่ร่างกาย รวมถึงช่วยให้เซลล์แข็งแรงขึ้น ก็จะส่งผลทำให้ผิวของเราแข็งแรงขึ้น สวยขึ้นด้วยค่ะ
2. ปลา การทานปลาเป็นประจำ โดยเฉพาะเมื่อเราอายุมากขึ้นนอกจะช่วยลดภาระของกระเพาะในการย่อยอาหารแล้ว ยังช่วยให้ร่างกายได้รับไขมันดี ได้รับโอเมก้า 3 และสาร Ani-aging ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้ร่างกายไม่เสื่อมเร็ว แก่ช้าค่ะ
3. ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองไม่ว่าจะเป็นเต้าหู้ หรือน้ำเต้าหู้ล้วนมีประโยชน์จากโปรตีนธรรมชาติ และแร่ธาตุวิตามินต่างๆ โดยเฉพาะ เอสโตรเจน ฮอร์โมนของเพศหญิงที่จะช่วยบำรุงให้ผิวพรรณสดใส ไม่หย่อนคล้อยก่อนวัยอีกด้วยค่ะ
ดูแลตัวเองอย่างไรให้ไม่ต้องใช้ครีม Anti-aging
ผู้หญิงวัยนี้จะพบกับปัญหาผิวแห้ง หย่อนคล้อย และมีริ้วรอย จึงต้องดูแลให้ผิวชุ่มชื้นอยู่เสมอโดยการทานผัก ผลไม้เพื่อเติมวิตามิน และความชุ่มชื้นให้ผิวพรรณ ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ ไม่ใช่แค่เพื่อผิวที่ดี แต่เพื่อสุขภาพร่างกายโดยรวมด้วย อาจจะมีการเสริมด้วยการเล่นโยคะ เพราะการเล่นโยคะไม่ทำให้บริเวณข้อต่อต่างๆได้รับการกระทบกระเทือนมากนัก ซึ่งสำหรับคนวัยนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเนื่องจากเป็นวัยที่สูญเสียแคลเซียมค่อนข้างเยอะอาจทำให้กระดูกไม่แข็งแรงเหมือนตอนสาวๆ ได้นะคะ
ครีม Anti-aging ที่แนะนำ