User Generated Content “โอตะ” คือแม่ทัพหลักของ BNK 48

Last updated: 8 Mar 2019  |  4904 Views  | 

User Generated Content “โอตะ” คือแม่ทัพหลักของ BNK 48

“แฟนคลับวง BNK48 ทุกคนล้วนแล้วแต่มีความเป็นโปรโมเตอร์และ User Generated Content ในตัว พร้อมช่วยโปรโมตวงและศิลปินได้อย่างแพร่หลายและทั่วถึง ซึ่งนี่ถือเป็นจุดเด่นและแต้มต่อที่ช่วยให้ BNK เป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว”

จิรัฐ บวรวัฒนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีเอ็นเค โฟร์ตี้เอท ออฟฟิศ จำกัด


ตอนนี้ถ้ามีคนเดินมาสัก 10 คน คงจะมีประมาณ 8 คนที่รู้จัก BNK48 และถ้าจะให้ลึกลงไปอีกคงจะมีสัก 5 คนที่เป็น “โอตะ” หรือแฟนคลับ น้องในวงนี้เข้าให้แล้ว

แต่สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักและกำลังสงสัยว่าทำไมเราถึงต้องเขียนถึง BNK48 และเกี่ยวข้องกับการสร้างแบรนด์อย่างไร เราจะขอยกตัวอย่างความสำเร็จของ BNK48 ให้ฟังคร่าวๆ ดังนี้

1. ในยุคที่ทุกคนหาเพลงฟังได้ง่ายๆ ผ่าน Streaming (youtube ก็เป็นหนึ่งในนั้น) จนแทบไม่มีค่ายเพลงไหนทำ CD ออกมาจำหน่ายแล้ว อันที่ผลิตออกมาค้างสต๊อกก็ถูกเลหลังขายถูกๆ แต่ CD ซิงเกิลของ BNK48 ทั้ง 2 เพลงถูกจำหน่ายไปแล้วกว่า 43,500 แผ่น ในราคาแผ่นละ 350 บาทเป็นมูลค่า 15,225,000 บาท

2. สินค้าที่ระลึกต่างๆ ถูกขายออกไปจนต้องขึ้น Sold Out ไปแล้วหลายรายการ ของที่ระลึกพร้อมลายเซ็นต์น้องๆ บางอย่าง เช่น ภาพถ่ายถูกเอามาประมูลในกลุ่มแฟนคลับได้ราคาหลักแสนก็เคยมีมาแล้ว

3. และที่เด็ดสุด บัตร Founder Member BNK48 ที่ขายไปแล้วกว่า 400 ใบ มูลค่า 8,000,000 บาท ใช่ครับบัตรใบละ 20,000 บาท!!


อะไรคือ Key Success ของ BNK48 แล้วเราจะปรับเอามาใช้ในการสร้างแบรนด์ได้อย่างไรบ้าง?

1. เป็นวงดนตรีที่มีวัฒนธรรม หรือจะพูดให้เข้าถึงง่ายๆ ก็คือ วงนี้มีกฎเหล็กที่สมาชิก และแฟนคลับต้องปฏิบัติตาม เช่น ห้ามสมาชิกในวงถ่ายภาพร่วมกับแฟนคลับโดยพลการเด็ดขาด, ห้ามทำศัลยกรรม เป็นต้น
ทำไมต้องห้ามอะไรกันเยอะแยะขนาดนี้? แล้วการห้ามขนาดนี้มันส่งผลดีอย่างไร? หลายคนคงสงสัย

การห้ามถ่ายภาพร่วมกับแฟนคลับ แม้จะมีงานจับมืออันโด่งดังที่บรรดาแฟนคลับจะได้จับมือสมาชิกในวงที่ตัวเองชื่นชอบแต่ก็ห้ามการถ่ายภาพเด็ดขาด และนี่เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้บัตร Founder Member BNK48 ราคา 20,000 บาท ขายดีขนาดนี้ เพราะหนึ่งในแพคเกจของบัตรคือการได้ถ่ายภาพกับสมาชิกในวง 2 ช๊อต ซึ่งมันมีคุณค่าทางจิตใจสูงมากสำหรับแฟนคลับ นอกจากนี้สินค้า official ทุกอย่างของ BNK48 เปรียบเสมือนของหายากที่เหล่าแฟนคลับต่างอยากได้ไว้สะสมซึ่งราคาก็มีตั้งแต่หลัก 100 บาท ไปจนถึงหลัก 1,000 บาท

การปรับใช้
1. หากสินค้าของคุณมีคู่แข่งอยู่เต็มไปหมด แถมลักษณะโดยทั่วไปก็เป็นสินค้าที่หาได้ทั่วไปตามท้องตลาด อย่าลืมเอากลยุทธ์แบบ BNK48 ไปใช้ นั่นคือ...การหาจุดขายที่จะทำให้สินค้าของคุณกลายเป็นของใช้ที่น่าสะสม ให้คุณค่าทางอารณ์กับผู้ซื้อมากกว่าคุณค่าทางการใช้งาน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำของไม่ดีมาขายนะคะ ของต้องดีและน่าสะสมไปพร้อมๆ กันค่ะ
2. วางแผนการจำหน่ายสินค้าให้เป็นระบบโดยสินค้า 1 อย่าง สามารถต่อยอดไปหาสินค้าอีก 1 อย่างได้ เช่นกรณี BNK48 ที่ต่อยอดการขาย CD เข้ากับการได้ร่วมกิจกรรมจับมือกับสมาชิกวง เริ่มจากสร้าง Demand ของแฟนคลับด้วยการจำกัดการเข้าถึงศิลปิน จึงทำให้เกิด Demand มหาศาล เพราะฉะนั้นเมื่อมีการขาย CD เพลงที่ถึงแม้จะหาฟังได้ง่ายๆ ในอินเตอร์เนต แต่เมื่อมีพ่วงการได้จับมือกับสมาชิกวงเข้ามาด้วย ทำให้ยอดการซื้อ CD สูงอย่างไม่น่าเชื่อ

การห้ามทำศัลยกรรม ถ้าอ่านแค่หัวข้อเราคงรู้สึกสงสัยในที่มาของกฎนี้ แต่ถ้าลองวิเคราะห์กันแล้ว BNK48 ถูกสร้างมาด้วยหลักการเดียวกับ AKB48 วงพี่ที่ญี่ปุ่น คือ เน้นที่ความสามารถและการเติบโตของศิลปิน เสน่ห์ของวงนี้ คือ การที่เหล่าแฟนคลับได้ดูพวกน้องๆ เติบโตขึ้นไปเรื่อยๆ พัฒนาจากเด็กหลังห้อง ขึ้นมาเป็น center ของวง จึงไม่ใช่การที่เอาคนที่สมบูรณ์แบบแล้วทั้งหน้าตาและความสามารถมาโชว์ แต่คือการรวมเอากลุ่มเด็กที่มีความมุ่งมั่นมาอยู่ด้วยกัน ผ่านการฝึกฝนอย่างหนักเพื่อจะประสบความสำเร็จ

การปรับใช้
การทำให้ลูกค้าเป็นมากกว่าลูกค้า คือการได้มีส่วนร่วมในการสร้างแบรนด์ไปกับเราด้วย ตั้งแต่เริ่มต้นออกโปรดักส์ใหม่จนประสบความสำเร็จ จึงเป็นอีกกลยุทธ์ที่น่าใช้โดยเฉพาะการสร้างแบรนด์ที่เน้นใช้วิธีการสร้างตัวแทน ถ้าตัวแทนรู้สึกว่าเขาคือส่วนหนึ่งของแบรนด์ แน่นอนว่าเขาจะไม่มีทางหนีเราไปไหนแน่นอน

สรุป การสร้างวัฒนธรรมเฉพาะของแบรนด์ขึ้นมาเป็นการสร้างจุดขาย สร้างภาพลักษณ์ ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้แบรนด์ให้ได้อีกทางหนึ่งด้วย และถ้าหากวางแผนมาดีมันจะเป็นจุดแข็งที่ยากจะเลียนแบบเลยทีเดียว

2. เมื่อแฟนคลับเป็นมากกว่าคนติดตามแต่กลายเป็น “User Generated Content” ในโลก Online
นี่น่าจะเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ BNK48 ประสบความสำเร็จขนาดนี้ ในระยะเวลาเพียงแค่ไม่ถึง 1 ปี เพราะลักษณะในการสนับสนุนของแฟนคลับ BNK48 จะต่างจากแฟนคลับศิลปินวงอื่นๆ อยู่สักเล็กน้อย เพราะไม่ได้แค่เพียงติดตาม แต่ยังให้การสนับสนุนอีกด้วย และลักษณะของการสนับสนุนไม่ใช่การสนับสนุนส่วนตัวแบบแต่ก่อน แต่คือการสนับสนุนสินค้า Official ของวงซึ่งสินค้าเหล่านี้จะเป็นตัวตัดสินคะแนนนิยมของสมาชิกในวงว่าสมาชิกคนไหนมีคะแนนนิยมจากแฟนคลับสูง ก็จะทำให้มีโอกาสได้ขึ้นเป็นสมาชิกหลัก เพราะฉะนั้นหากเป็นแฟนคลับของสมาชิกคนไหน และอยากให้สมาชิกคนที่เราสนับสนุนประสบความสำเร็จขึ้นก็ต้องซื้อสินค้า หรือบัตรจับมือของคนนั้นๆ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ทำให้ เหล่าแฟนคลับกลายเป็น User Generated Content ไม่ใช่แต่ติดตาม กด like กด share แต่พวกเขายังได้สร้างคอนเทนส์ต่างๆ ขึ้นมาบนโลกออนไลน์เพื่อสนับสนุนสมาชิกที่ตนชื่นชอบกลายเป็น Ecosystem เล็กๆ แต่มีจำนวนมากที่เป็นกำลังหลักในการผลักดันให้กระแสของ BNK48 โด่งดังจนไม่ว่าจะเปิดไป fan page ไหนก็มีแต่คนพูดถึง จึงไม่ใช่เรื่องเกินเลยถ้าเราจะบอกว่าบรรดาเหล่าโอตะทั้งหลายคือแม่ทัพสำคัญที่ทำให้ BNK48 โด่งดังได้ขนาดนี้

การปรับใช้
การสร้างคอนเทนส์ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ และมากด้วยคุณค่าต่อคนอื่นจนรู้สึกอยากแชร์คงใกล้เคียงที่สุดสำหรับกลยุทธ์นี้ เพราะเมื่อเราได้สร้างคอนเทนส์ที่ดีอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการติดตามจนคนเริ่มพูดถึงสินค้าของเรา หรือแม้กระทั่งจับไปรีวิวเองก็เข้าข่าย User Generated Content เหมือนกัน

สรุป การสื่อสารออกไปอย่างจริงใจและเต็มไปด้วยคุณภาพของเนื้อหายังคงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการสร้างแบรนด์อยู่เสมอ เหมือนอย่างที่ BNK48 ทำต่อแฟนๆ ของพวกเขา ด้วยลุคสดใสของสมาชิกในวงที่โด่งดังแหวกกระแสยุคเนตไอดอลโชว์วาบหวิว แต่กลับได้รับความนิยมและส่งเสริมอย่างต่อเนื่องจึงน่าจะเป็นเครื่องการันตีได้อย่างดีว่า คุณภาพที่ดีจากภายในอยู่เหนือสิ่งสวยงามที่ฉาบฉวยภายนอกเสมอ ไม่ต่างจากการสร้างแบรนด์เครื่องสำอางที่ท้ายที่สุดแล้วลูกค้าก็จะตัดสินที่คุณภาพของสินค้ามากกว่าสิ่งที่เขาเห็นตอนโฆษณาเสมอ

ที่มา :  thestandard.co

   




    "เห็นไหมคะว่าทุกกระแสในโลกออนไลน์ หากเราตั้งใจมองดีๆมันไม่ใช่ความบังเอิญ หรือความโชคดี มันคือการวางแผนและผ่านการคิดมาอย่างดี บวกกับความมุ่งมั่น ตั้งใจของคนทำงานอย่างน้องๆ BNK48 แล้วจึงทำให้ผลออกมาดีอย่างที่พวกเราเห็นกันนี่แหละค่ะ แต่จะยืนระยะได้นานแค่ไหนก็คงต้องให้คุ๊กกี้ทำนายกัน"


มิสเดอร์มา
by Derma Innovation

This website uses cookies for best user experience, to find out more you can go to our Privacy Policy  and  Cookies Policy